ค่าบริการ เหมาจ่ารายเดือนเพียงเดือนละ 9,900 บาท ไม่มีค่าใช้ค่าใดใดเพิ่มเติมทั้งสิน
ทางเรารัน โฆษณาให้ ตลอดเาลา24ชม.(หรือตามลูกค้ากำหนด) จำนวน30วันเต็ม
บัญชีโฆษณา ทางเราจัดการให้ทั้งหมดตลอดเวลา 30วัน ไม่จำกัดจำนวน
เว็บไซต์ เซลเพจหน้าขาว ทางเราจัดการเองทั้งหมด รวมไปถึงโดเมน (ฟรี)
รูปภาพ ต่างๆ (รูปโปรหากมี) ทางลูกค้าควรจัดหามาเอง อย่างน้อย 5 รูป png, jpg, gif
ทางเราส่งรายงานผลให้ทุกวัน เวลา 10.00น.ของทุกวัน
ลูกค้าสามารถ เข้าตรวจสอบบช.ด้วยตัวเองได้ผ่าน VPS เท่านั้น ในส่วนนี้ลูกค้าเสียค่าบริการเอง
บัตรเครดิต สำหรับชำระค่าโฆษณา ให้กลับFacebook Ads สามารถใช้บัตรของทางลูกค้าเองได้เลย หรือ จะใช้บัตรที่ทางเราเตรียมไว้ให้ก็ได้ ไม่บวกเพิ่ม(แนะนำ)
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการทีมงานเราครับผม
ปัญหา: การกำหนดกลุ่มเป้าหมายไม่ถูกต้องสามารถทำให้โฆษณาของคุณไม่เข้าถึงผู้ใช้ที่เหมาะสม ส่งผลให้ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณได้
วิธีการแก้ไข:การวิจัยและระบุกลุ่มเป้าหมาย: ใช้ข้อมูลจาก Facebook Audience Insights เพื่อศึกษาความสนใจ, พฤติกรรม, และลักษณะประชากรของกลุ่มเป้าหมาย.
สร้าง Customer Personas (บุคลิกของลูกค้า) ที่เป็นรูปแบบของกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ.
ใช้คุณสมบัติต่าง ๆ เช่น อายุ, เพศ, สถานที่ตั้ง, ภาษา, ความสนใจ, และพฤติกรรม
ใช้ Custom Audiences เพื่อเข้าถึงผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณในอดีต (เช่น ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์, รายชื่อลูกค้า).
ใช้ Lookalike Audiences เพื่อค้นหาผู้ใช้ที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของคุณ.
การทดสอบ A/B:สร้างการทดสอบ A/B เพื่อทดลองกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น อายุ, ความสนใจ, หรือพฤติกรรมการซื้อ.
ตรวจสอบผลลัพธ์จากการทดสอบเพื่อเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพสูงสุด.
ปัญหา: ค่าใช้จ่ายโฆษณาที่สูงอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่เหมาะสมหรือการแข่งขันที่สูงในการประมูลโฆษณา.
วิธีการแก้ไข:
สร้างโฆษณาที่มีความน่าสนใจและสื่อสารข้อเสนอของคุณอย่างชัดเจน.
ใช้ภาพที่มีคุณภาพสูงและข้อความที่กระชับ
เลือกวิธีการตั้งค่า Bid ที่เหมาะสม เช่น Cost per Click (CPC) หรือ Cost per Mille (CPM) ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแคมเปญ
ใช้การตั้งค่า Bid ที่มีประสิทธิภาพ เช่น Automatic Bidding ซึ่งให้ Facebook จัดการการประมูลให้คุณ
ใช้ Facebook Ads Manager เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลแคมเปญ เช่น CTR (Click-Through Rate), CPC (Cost per Click), และ ROI (Return on Investment)
ปรับกลยุทธ์การตลาดตามข้อมูลที่ได้ เช่น ปรับกลุ่มเป้าหมายหรือการตั้งค่า Bid
ปัญหา การติดตามและวัดผลลัพธ์ของแคมเปญไม่ชัดเจนอาจทำให้คุณไม่สามารถปรับปรุงแคมเปญได้อย่างเหมาะสม
ติดตั้ง Facebook Pixel บนเว็บไซต์ของคุณเพื่อติดตามกิจกรรมของผู้เยี่ยมชม เช่น การซื้อ, การลงทะเบียน, หรือการดูหน้า
ใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจาก Pixel เพื่อวัดผลลัพธ์และปรับกลยุทธ์โฆษณาของคุณ
ตั้งค่า Conversion Events เช่น Purchase, Lead, Add to Cart ใน Facebook Ads Manager
ตรวจสอบ Conversion Metrics เพื่อประเมินความสำเร็จของแคมเปญ
ใช้เครื่องมือ Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากแคมเปญ เช่น Google Analytics ร่วมกับ Facebook Ads
ตรวจสอบ Conversion Rate, Customer Acquisition Cost (CAC), และ Lifetime Value (LTV) เพื่อทำความเข้าใจประสิทธิภาพของแคมเปญ
ปัญหา: โฆษณาอาจไม่แสดงผลดีบนทุกอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ ทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ไม่ดี
วิธีการแก้ไข: การออกแบบ Responsive:
ออกแบบโฆษณาและหน้า Landing Page ให้รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์หลายชนิด
ใช้รูปภาพและข้อความที่ปรับขนาดตามอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ใช้
ทดสอบโฆษณาและหน้า Landing Page บนอุปกรณ์และเบราว์เซอร์หลาย ๆ แบบเพื่อแน่ใจว่าการแสดงผลเป็นไปอย่างถูกต้อง
ใช้เครื่องมือสำหรับการทดสอบข้ามแพลตฟอร์ม เช่น BrowserStack